งูเหลือม และ งูหลาม แตกต่างกันอย่างไร
งูเหลือม และงูหลามมีลักษณะที่คล้ายกันมากและพบเจอได้บ่อย หลายๆคนอาจจะแยกไม่ออก วันนี้salafsolihจะมาบอกจุดสังเกตความแตกต่างระหว่างงูเหลือมและงูหลาม ถึงแม้ว่างูทั้งสองชนิดนี้จะคล้ายกันแต่ก็มีความแตกต่างกันอยู่ จุดสังเกตง่ายๆคือที่หัวของงูทั้งสองชนิดจะมีลักษณะคล้ายกับลูกศรแต่งูเหลือมจะมีลูกศรออกสีดำ ส่วนงูหลามมีลูกศรสีขาว งูเหลือมมีความดุร้ายมากกว่างูหลาม ถ้าเห็นงูหากินในน้ำหรืออยู่บนต้นไม้ให้สันนิษฐานว่าเป็นงูเหลือม เพราะงูหลามส่วนมากจะออกหากินบนบกและไม่ชอบหากินบนต้นไม้ งูเหลือมกลัวเชือกกล้วยจริงหรือไม่ งูเหลือมกลัวเชือกกล้วยเป็นความเชื่อที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน เล่ากันมาว่าถ้าหากใช้เชือกกลัวรัดงูเหลือม งูจะอ่อนแอและสิ้นฤทธิ์ลง เชือกกล้วยทำมาจากกาบกล้วยที่นำมาตากแดดจนแห้งแล้วนำมาชุบน้ำปั่นเกลียวให้เหนียวและทนทาน นิยมใช้มากันในสมัยโบราณ ความเชื่อที่ว่างูเหลือมกลัวเชือกกล้วยนั้นไม่เป็นความจริง ในสมัยก่อนนิยมนำเชือกกล้วยไปรัดงูเนื่องจากเป็นเชือกที่หาง่าย ส่วนเหตุผลที่ทำให้งูอ่อนแอลงเป็นเพราะเชือกกล้วยมีความเหนียวและทนทานมาก ยิ่งงูยิ่งดิ้นก็จะยิ่งรัดแล้วก็หมดแรงไปในที่สุด วิธีไล่และป้องกัน งูเหลือม ไม่ให้เข้าบ้าน บ้านที่มักจะมีงูเลื้อยเข้ามาส่วนใหญ่ สภาพแวดล้อมรอบบ้านมักจะมีลักษณะเป็นป่ารกทึบหรือมีหนองน้ำซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของงูหลากหลายชนิดรวมถึงงูหลาม และสภาพภายในบ้านที่วางของไม่เป็นระเบียบ มีซอกมุมรกรุงรังอาจจะทำให้เหล่าบรรดางูเข้ามาหลบซ่อนภายในบ้านได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดไม่ให้งูเข้าบ้านคือต้องปิดรูหรือโพรงต่างๆ ติดตาข่ายที่ประตูและหน้าต่าง และชักโครงที่หลายๆคนมองข้าม คิดไม่ถึงว่างูจะเข้ามาทางนี้ ควรติดตั้งกล่องกันงูหรือฝากันกลับ งูมักจะเข้ามาทางท่อระบายบายจึงควรติดตั้งตะแกงที่ท่อน้ำทิ้ง ถ้างูเข้ามาในบ้านให้สังเกตว่าเป็นงูมีพิษมั้ย และคอยจับตาดูในระยะที่ปลอดภัย ดูว่างูกำลังจะไปทางไหนเพื่อจะได้ชี้จุดจับได้ง่ายขึ้น ไม่ควรวิ่งไล่หรือขว้างสิ่งของใส่เพราะอาจจะทำให้งูตกใจและพุ่งตัวใส่ ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ถ้าไม่สามารถจับเองได้ จบกันไปแล้วสำหรับบทความเรื่องงูเหลือม หวังว่าเพื่อนๆชาวsalafsolihจะได้รับประโยชน์จากบทความในวันนี้แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ แหล่งที่มาของรูปภาพ: https://www.matichon.co.th/region/news_600222 บทความที่อาจสนใจ งูเห่า สัตว์ดุร้ายสายฉกจอมกัด!
งูเห่า สัตว์ดุร้ายสายฉกจอมกัด!
งูเห่า เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งมีนิสัยที่ดุร้าย แถมยังมีพิษสงร้ายแรงอย่าบอกใคร ก่อนเล่าเรื่องนี้ขอกล่าวสวัสดีเพื่อน ๆ ชาว salafsolih ทุกคนเช่นเคยนะคะ หากจะกล่าวถึงงูที่น่ากลัวและมีพิษรุนแรงอันตราย คงจะหนีไม่พ้น งูเห่า งูที่ใครเจอก็ต้องร้องกรี้ด ทั้งรูปร่างหน้าตารวมทั้งลีลาการแผ่แม่เบี้ยบอกได้เลยว่าเป็นใครก็ต้องวิ่งหนี แถมเราอาจตายได้เลย ถ้าไปเผลอตัวเหยียบโดนตัวงูชนิดนี้เข้า เพราะมันเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจเป็นอย่างมาก หากมีสิ่งมารบกวนหรือมาโดนร่างกายมัน มันจะมีการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจมาก ๆ จนแว้งเข้ามากัดสิ่งเหล่านั้นในทันทีทันใดโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว โดยปกติงูเพศเมียจะมีความดุร้ายกว่างูเพศผู้ ซึ่งงูชนิดนี้สามารถสังเกตเพศได้จากบริเวณส่วนหัวและขนาดของแม่เบี้ย หากมีหัวหลิมแม่เบี้ยแคบจะเป็นตัวเมีย แต่หากมีช่วงบนใหญ่เป็นวงรีแม่เบี้ยกว้างจะเป็นงูตัวผู้ ลักษณะและเอกลักษณ์ของ งูเห่า งูเห่า เป็นงูบกชนิดหนึ่งที่มีความดุร้ายเป็นอย่างมาก มีลักษณะนิสัยที่มักจะฉกหรือกัดหากมีอาการตื่นตระหนกตกใจ แถมพิษของมันร้ายแรงที่ถึงกับคร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกชกหรือกัดได้เลย บริเวณตัวของงูเห่าจะมีทั้งพันธุ์ที่มีลายและพันธุ์ที่ไม่มีลวดลายใด ๆ เลย ลำตัวมีได้หลายสี ทั้งสีดำ น้ำตาลเข้ม เขียวอมเทา ขาวหรือสีเหลืองหม่น มีแม่เบี้ยชูชัน สามารถแผ่แม่เบี้ยได้สูงถึง 1 ใน 3 ของความยาวของช่วงลำตัว ดำรงชีวิตโดยการกินหนู ปลา ไก่ เขียด คางคกและงู เรามักจะสามารถพบเห็นได้บ่อยในบริเวณท้องทุ่งท้องนา มันมักจะหลบตัวอยู่ตามโพรงดินที่มีความชื้น เนื่องจากพื้นดินบริเวณนั้นจะนิ่มและเย็น อาการของพิษร้ายจากงูเห่า เมื่อถูกงูเห่ากัด ช่วงเวลาผ่านไปประมาณ […]
วิธีเลี้ยงงู แบบมือใหม่หัดเลี้ยง ต้องเตรียมอะไรบ้าง
วิธีเลี้ยงงู สำหรับมือใหม่ที่เริ่มมีความสนใจงูสวยงาม หรือถูกต้องมนต์เสน่ห์ของน้องสัตว์เลื้อยคลานไม่มีขา นอกจากจะเตรียมใจแล้วจะต้องเตรียมอะไรบ้าง เพื่อให้การอยู่ร่วมกันในครั้งนี้ไม่เครียดทั้งคนทั้งงู ก่อนอื่น salafsolih. ขอบอกก่อนเลยว่า งูเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องการพะเน้าพะนอเหมือนสัตว์เลี้ยงทั่วไปอย่างสุนัขและแมว และจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงระบบปิด นั่นหมายความว่าการดูแล การเลี้ยงงูจึงต้องมีความละเอียดนิดนึง เอาละเรามาดูวิธีการเลี้ยงงูกันแบบคร่าว ๆ ก่อนดีกว่า จะได้เตรียมความพร้อมก่อนพาน้องเข้าบ้านกัน วิธีเลี้ยงงู กับการเตรียมพร้อมก่อนรับงูเข้ามา ก่อนอื่นคุณควรเตรียมสถานที่ที่เหมาะสม ตำแหน่งวางกล่องสำหรับเป็นบ้านของงู และตำแหน่งพื้นที่นั้นจะต้องไม่อับ ร้อน หรือเย็นจัดจนเกินไป และวิธีเลี้ยงงูในเรื่องเกี่ยวกับแสงแดดที่ถูกต้องคือ ไม่ควรเป็นสถานที่ที่ถูกแดดส่องในช่วงตอนกลางวัน หากอยากให้น้องรับแดด ควรเป็นสถานที่ที่แดดอ่อน ๆ ในตอนเช้าส่องถึงมากกว่าแดดในช่วงบ่าย แม้ว่าสภาพของงูจะต้องการแสงยูวีบ้างตามธรรมชาติ แต่ต้องการในปริมาณที่น้อยนิดเท่านั้น นอกจากนี้ สถานที่ต้องไม่เป็นที่เสียงดัง วุ่นวาย มีผู้คนเดินผ่านเข้าออกบ่อย และหากที่บ้านของคุณมีสัตว์เลี้ยงอื่น เช่น สุนัข และแมว หรือสัตว์อื่น ๆ ควรแยกให้ห่างกันแบบไม่ให้พบเจอกัน เพราะงูเป็นได้ทั้งสัตว์นักล่าและผู้ถูกล่าตามธรรมชาติ เป็นเรื่องยากที่จะให้งูเข้ากับสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์อื่นและเลี้ยงรวมกันได้ อุณหภูมิที่เหมาะสมกับ การเลี้ยงงู หลายคนรู้แค่วิธีเลี้ยงงูแบบผิวเผินโดยไม่ได้คิดว่างูก็ต้องการอุณหภูมิที่เหมาะสมเช่นกัน และอุณหภูมิที่เหมาะสมมากที่สุดคือ ช่วง 28-33 องศาเซลเซียส แต่หากเป็นหน้าหนาวงูตามธรรมชาติจะทนอุณหภูมิที่ 20-27 องศาได้เหมือนกัน แต่หากเป็นงูเลี้ยง […]